1. พระธาตุนาดูน
พุทธมณฑลแห่งอีสาน
ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอำเภอนาดูน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์
โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน
โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น
และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน
และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี
รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้นในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ
สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา
การเดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม
โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอำเภอแกดำ
อำเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2045 ถึงอำเภอนาดูน
ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร
บ้านท่าเดื่อ ตำบลหนองบอน
ริมถนนสายท่าพระ-โกสุมพิสัย
เป็นหาดทรายที่เกิดจากตะกอนทรายทับถมตามธรรมชาติเป็นแนวโค้งของแม่น้ำชี ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร
มีเครื่องเล่นต่าง ๆ เช่น บานานาโบต โดนัสสกี รวมทั้งร้านอาหาร
เก้าอี้ผ้าใบและร่มไว้บริการ เปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น.
สะพานไม้แกดำ อีกหนึ่งสะพานไม้เก่าแก่ในบรรยากาศแบบท้องทุ่ง
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของจังหวัดมหาสารคามที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
และเที่ยวชม
เพื่อสัมผัสของกลิ่นไอแห่งความเป็นชาวบ้านกับสะพานที่ทอดตัวยาวท่ามกลางหนองน้ำแกดำไกลสุดตากว่า
1 กิโลเมตร ท่ามกลางบึงบัวและพืชน้ำสีเขียวและความหลากทางธรรมชาติ
ถือว่าเป็นสะพานสุด unseen อีกแห่งหนึ่ง
ที่ควรค่าแห่งการเดินทางมาเช็คอิน
ลิงแสมขนสีทองเป็นลิงที่อาศัยอยู่ในวนอุทยานนี้ปะปนอยู่กับลิงแสมขนสีเทาธรรมดากว่า 800 ตัว ลิงขนสีทองถือเป็นเอกลักษณ์พิเศษมีเพียงที่นี่ที่เดียวในเอเชียแปซิฟิก นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารลิงและชมพฤติกรรมแปลก ๆ ของลิงที่นี่ได้อย่างสนุกสนานการเดินทาง ใช้เส้นทางหมายเลข 208 ห่างจากตัวเมืองมหาสารคามประมาณ 28 กิโลเมตร ถึงสี่แยกโกสุมพิสัยแล้วตรงไปประมาณ 500 เมตร
อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
โบสถ์รูปเรือนี้หมายถึงเรือบุญ
เมื่อจะเข้าโบสถ์ต้องลอดใต้พระราหุลเพื่อให้พระราหุลกลืนกินสิ่งไม่ดีในตัวเรา
ประตูที่เล็กและต่ำจะทำให้เราต้องรู้จักนอบน้อมถ่อมตน
และเมื่อเงยหน้าขึ้นก็จะเห็นพระประธานปรางค์ประถมเทศนาศิลปะแบบทวารวดีอยู่ตรงหน้าพอดี
เดินรอบโบสถ์เพื่อเรียนรู้ปริศนาธรรมที่ซ้อนไว้ในมุมต่างๆของโบสถ์เต็มไปหมด
นี้เป็นผลงานการออกแบบของท่านเจ้าอาวาส คือท่านพระครูบวรธรรมปคุณ
และก่อสร้างโดยช่างชาวบ้านในชุมชน แต่หากได้ผลงานศิลปะที่สวยงามลงตัวทรงคุณค่า
เปรียบดั่งเรือโนอาห์แห่งพระพุทธศาสนา เพียงมิได้สร้างไว้เพื่อบรรจุสิงสาราสัตว์
หากแต่สร้างไว้บรรจุบุญและความดี เชิญชมได้ที่ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม
การเดินไปที่วัดนี้ให้เดินทางโดยใช้เส้นทางสายร้อยเอ็ด ออกจากสารคามราว 10 กิโลเมตร จะถึงบ้านเขวามองหาป้ายวัดหนองหูลิงแล้วเลี้ยวขวา เดินทางไปเรื่อยจนถึงบ้านหนองหูลิง
(เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังสะพานไม้แกดำได้ด้วย) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมวางทริปเที่ยววัดนี้ ต่อเนื่องกับสะพานไม้แกดำเสมอๆ
การเดินไปที่วัดนี้ให้เดินทางโดยใช้เส้นทางสายร้อยเอ็ด ออกจากสารคามราว 10 กิโลเมตร จะถึงบ้านเขวามองหาป้ายวัดหนองหูลิงแล้วเลี้ยวขวา เดินทางไปเรื่อยจนถึงบ้านหนองหูลิง
(เส้นทางนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังสะพานไม้แกดำได้ด้วย) นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงนิยมวางทริปเที่ยววัดนี้ ต่อเนื่องกับสะพานไม้แกดำเสมอๆ
สะดืออีสาน หรือบึงกุย
ตั้งอยู่ที่หมู่ 13 ตำบลหัวขวาง
อำเภอโกสุมพิสัย มีความเชื่อกันว่าที่นี่เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสาน
จึงเรียกกันว่าสะดืออีสาน มีลักษณะเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,750
ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำมากมาย
เป็นแหล่งทำมาหากินที่สำคัญของชาวมหาสารคาม
อีกทั้งโดยรอบบึงยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ น่ามาเที่ยวพักผ่อน
มีอาคารรูปทรงสวยงามตั้งเป็นสัญลักษณ์โดดเด่น ภายในพื้นที่มีอาณาเขตที่กว้างขวาง
มีการจัดตกแต่งเป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่น สามารถมองเห็นวิวสวยของ
"บึงกุย" บึงน้ำขนาดใหญ่ได้อย่างสวยงาม
ซึ่งเหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ และเก็บภาพประทับใจไว้เป็นที่ระลึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น